092-279-4292 , 081-556-2964 info@www.kt-electricalengineering.com

ประสิทธิภาพการทำงาน และความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในโรงงาน ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากเมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบไฟฟ้าเกิดขัดข้อง นอกจากจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานทั้งหมดแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อพนักงานอีกด้วย วันนี้เราขอชวนมารู้จักกับ ‘การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน’ เรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม

ปัจจัยที่ทำให้ระบบไฟฟ้าในโรงงานเกิดปัญหา
ผู้ใช้งานขาดความรู้ ความเข้าใจ
ระบบไฟฟ้าในโรงงาน เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญในการใช้งานและการดูแลรักษา ซึ่งหากผู้ใช้งานขาดความเข้าใจในส่วนนี้ หรือไม่มีประสบการณ์เพียงพอ ก็อาจทำให้ระบบไฟฟ้าในโรงงานเกิดปัญหา หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และยังส่งผลให้เกิดอันตรายต่อการทำงานในส่วนอื่น ๆ อีกด้วย

อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของการวางระบบไฟฟ้าในโรงงาน เพราะอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน จะมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี และมีการทดสอบความปลอดภัย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน แต่หากเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะกับงาน ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาในระหว่างการทำงาน และทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงได้

พนักงานไม่เพียงพอ
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบไฟฟ้าในโรงงานเกิดปัญหา แต่อาจเป็นเรื่องที่โรงงานหลายแห่งคาดไม่ถึง ก็คือเรื่องของจำนวนพนักงานที่ไม่เพียงพอ หรือขาดพนักงานที่เชี่ยวชาญในด้านการดูแลระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำให้เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ไม่สามารถเข้าดูแลหรือแก้ไขได้ทันท่วงที จนทำให้งานส่วนอื่น ๆ ไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ระบบไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร

ขาดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงประจำปี
เช่นเดียวกับระบบอื่น ๆ การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในโรงงานถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะระบบไฟฟ้าคือระบบสำคัญในโรงงานที่ต้องมีการใช้งานตลอดเวลา และยังเป็นระบบที่คอยขับเคลื่อนโรงงานให้ดำเนินต่อไปได้ หากไม่มีการตรวจสอบและซ่อมบำรุง ก็จะทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ เสื่อมสภาพ นำไปสู่อันตรายที่ไม่คาดคิดได้

ประโยชน์ของการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน
นอกจากจะทำหน้าที่เป็นพลังงานหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องจักรแล้ว ระบบไฟฟ้าในโรงงานยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้โรงงานสามารถขับเคลื่อนไปได้ในทุกวัน และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานในฝ่ายต่าง ๆ ดังนั้น การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการบริหารจัดการโรงงาน ประโยชน์ของการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานมีอยู่ด้วยกันดังต่อไปนี้

ได้ความปลอดภัย
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พนักงานสามารถรู้เท่าทันปัญหาที่จะเกิดขึ้น และสามารถหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดอันตรายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ หรือปัญหาที่เกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ได้ประสิทธิภาพ
นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะจะช่วยให้เครื่องจักรต่าง ๆ สามารถทำงานได้ราบรื่นอยู่เสมอ ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง

ได้ประหยัดค่าใช้จ่าย
การตรวจสอบและการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในโรงงานเป็นประจำ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้น เพราะจะช่วยลดโอกาสที่ระบบไฟฟ้าหรือเครื่องจักรจะขัดข้อง เสียหาย หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนต้องลงทุนไปกับการติดตั้งระบบใหม่ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

ขั้นตอนการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน
การตรวจสภาพทั่วไป
การตรวจสอบทั่วไป เป็นการตรวจสภาพโดยทั่วไปของระบบไฟฟ้าอย่างง่าย ๆ ซึ่งผู้ที่จะตรวจสอบ ควรเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านระบบไฟฟ้า และมีการสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยจะเป็นการตรวจระบบพื้นฐานอย่างสายไฟฟ้า เบรกเกอร์ และจุดเชื่อมต่อสายไฟต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ายังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และไม่ได้ถูกติดตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย

การตรวจด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานด้วยการใช้อุปกรณ์ เป็นการตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาความผิดปกติ และทำการบันทึกค่าต่าง ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนการซ่อมบำรุงหรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีแนวโน้มจะเสื่อมสภาพได้ก่อนที่จะเกิดการขัดข้อง โดยผู้ที่จะทำการตรวจสอบควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในด้านระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะ

หลักปฏิบัติเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ระบบไฟฟ้าในโรงงาน

อบรมพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องระบบไฟฟ้า
ผู้ประกอบการควรจัดให้มีการอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักการทำงานและการใช้งานระบบไฟฟ้าในโรงงานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถใช้งานระบบไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย และช่วยให้งานดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน
การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน เป็นอีกหนึ่งหลักปฏิบัติที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ เพราะการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับงาน ก็จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้เต็มที่ และช่วยลดโอกาสเกิดอันตรายได้มากขึ้น

กำหนดให้มีช่างประจำเพื่อคอยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน
ควรจัดให้มีช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีประสบการณ์ด้านการดูแลรักษาระบบไฟฟ้า เพื่อคอยดูแลและแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน จะช่วยให้ระบบงานในโรงงานสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง

จัดการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานเป็นประจำทุกปี
นอกจากการมีช่างประจำในโรงงานแล้ว ผู้ประกอบการควรจัดให้มีการตรวจสอบและการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในโรงงานเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน และช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องจักรต่าง ๆ ให้ยาวนาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save